วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เพื่อนและมิตรภาพ

บนเส้นทางของชีวิต เปรียบเสมือนการเดินทางบนท้องถนนสายหนึ่งนั่นเอง การเดินคนเดียว บางครั้งก็อ้างว้าง เหงา ไม่มีเพื่อนคุย แต่ถ้าหากได้เพื่อนร่วมทางเดินที่ดีคนหนึ่ง นั่นนับว่าโชคดีมาก แต่นั่นน่ะสิ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาดีหรือไม่ดี แต่นั่นก็ต้องลองอีกนั่นแหละค่ะ ต้องเสี่ยงดู ถึงได้บอกว่าการใช้ชีวิตไม่ได้เรียบง่ายเสมอไปนั่นเอง อุปสรรคก็เป็นเสมือนยา แม้จะหวานหรือขม บางทีเราก็ต้องเจอ ต้องกิน จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นมาทันที เป็นตัวกระตุ้นคอยปลุกให้เราแข็งแรงได้ตลอด...ประสบการณ์เป็นเหมือนบทเรียนในห้องเรียนที่ทำให้เรารู้สึกว่าต่อสู้กับมันจนผ่านหลายๆขั้นตอนมาได้ นั่นก็เป็นความภาคภูมิใจส่วนหนึ่งด้วยนั่นเอง ความสำเร็จจะไม่เกิดได้หากขาดสิ่งเหล่านี้เพราะเป็นของคู่กัน ไม่ว่าคนยากดีมีจน แต่ละชีวิตก็ต้องมีสิ่งนี้ทั้งนั้น มันเป็นของที่มาด้วยกัน หากโชคดีก็ง่ายหน่อย หากโชคร้ายก็จะยากกันไปตามขั้นตอน ต้องดิ้นรนล่ะ แล้วแต่บุญกรรมที่ทำกันมา ใครเล่าจะราบเรียบ สมบูรณ์หมดซะทุกอย่างค่ะ ไม่มีหรอกค่ะ เพื่อนในฉบับพจนานุกรมเแปลว่า เกลอ ผู้รักใคร่กัน ผู้ชอบพอกัน เพื่อนที่ฉันจะกล่าวถึงในวันนี้ คำว่าเพื่อน ไม่ได้มีไว้ให้เรียกเฉยๆ ให้เอาหน้าว่าเรามีเพื่อน หรือมีคนคบ แต่หน้าที่ของเพื่อนที่มีค่ามากกว่านั้น คือความจริงใจ หาซื้อที่ไหนไม่ได้ค่ะ ไม่มีใครขายให้หรอก ของแบบนี้มันใช้ใจซื้อเองกัน เป็นการลงทุน หากเราใช้ความจริงใจซื้อมา อาจจะได้ความจริงใจจากเพื่อนตอบกลับ หรือไม่ได้เลย ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกหรือพื้นฐานจิตใจของคนๆนั้น หากคนๆนั้นที่เราใช้เงินซื้อใจมา เขาก็จะหวังว่าจะได้ผลประโยชน์จากเรานั่นเอง ผู้ชอบพอรักใคร่กัน, ผู้สนิทสนมคุ้นเคยกันแต่เพื่อในนิยามความหมายของฉันก็คือคนที่คุณรักและคนที่รักคุณ หวังดีกับคุณ อยากเห็นคุณมีความสุข คนที่ไม่เคยคิดแข่งขันกับคุณ คนที่จริงใจกับคุณและมองเห็นคุณค่าและความสำคัญของคุณ

ดังนั้น เพื่อนจึงเป็นมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจจะแลกเปลี่ยนมาด้วยน้ำเงิน แต่เป็นการมาจากน้ำใจที่ใสอย่างแท้จริง เป็นความผูกพันของกันและกันนั่นจะเป็นสิ่งดีที่เราจะได้มายากนักหนา แต่เพื่อนก็ไม่ใช่ชีวิตทั้งชีวิต ไม่ได้เป็นชีวิตของคุณและเพื่อนก็ไม่ได้อยู่กับคุณตลอดเวลาลมหายใจเข้าออก แต่เพื่อนผู้ที่อยู่ใกล้ชิด ดูแลคุณและคบคุณอย่างจริงใจ มีความสุขในการที่คบกับเราเป็นเพื่อนนั่นเอง



ทุกวันนี้คุณมีเพื่อนที่ฉันได้กล่าวให้ทราบแล้วหรือยัง คุณที่คุณคบอยู่ เพื่อนของคุณอาจจะไม่ได้ราบรื่นซะทีเดียว แต่ฉันคิดว่าคงไม่มีใครสมบูรณ์ 100 % หรอกค่ะ คงไม่มีใครดีราบเรียบ บางทีก็ต้องเป็นสิ่งที่แย่ของแต่ละคนได้ รับกันไป ลองพิจารณาแค่เพียงความจริงใจที่ได้ให้กัน ถามหัวใจของคุณว่าคุณจริงใจกับเขาเท่าไร และคุณได้สัมผัสถึงความจริงใจที่เขามอบให้คุณหรือไม่ คุณลองใช้สติปัญญาที่คุณมีทั้งหมดชั่งใจเอา และคิดดู ถามว่าหากเพื่อนที่คุณมีอยู่ตอนนี้ ไม่จริงใจกับคุณ ไม่ไ้ด้รักคุณ สมควรนำมาเป็นเพื่อนของคุณหรือไม่้ หากเลิกคบจะเป็นผลดีมากกว่าไหม สำหรับคุณ แล้วคุณจะทำอย่างไร ลองคิดดูเองค่ะ



ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน คนที่อยู่คนเดียว ถามว่าเหงาไหม ก็คงมีบ้าง คนที่มีเพื่อนถามว่ามีความสุขไหม ก็คงไม่ตลอด แต่ใครจะได้ความสุข 100% ไม่มีหรอกค่ะ ต้องอดทนกันไป หากอดทนไม่ได้ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร คนเราเกิดมาเป็นมนุษย์สุดประเสริฐ มีสมองที่เหนือชั้นกว่าเดรัจฉานเป็นไหนๆ จงให้กำลังใจตัวท่านเองค่ะ เพราะคนเราเกิดมาเพื่อสู้ ไม่ได้เกิดมาเพื่อแพ้ใจตัวเอง ขอให้ทุกท่านพบกับมิตรภาพที่แท้จริงค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เที่ยวแบบไหนสบายใจที่สุด(ของฉัน)

คนเรานั้น หากจะมองไปแล้วก็รู้สึกถึงได้ว่า คงไม่มีใครอยากจะเก็บความรู้สึกอยู่กับที่หรอก คงไม่มีใครอยากจำเจอยู่ที่เดิม ไม่ได้พบปะใคร ถ้าฉันถามคุณว่า คุณเคยเบื่อบ้างไหม หากมีคนตอบว่า ในชีวิตของฉันไม่เคยเบื่อเลย ไม่อยากไปไหน คนๆนั้นจะต้องเป็นคนที่ไม่ยอมรับอะไรใหม่ๆเข้ามาในชีวิตเป็นแน่แท้ ไม่มีใครอยากอยู่ห้องสี่เหลี่ยมตลอดไปหรอก อย่างน้อยๆ ก็นานทีปีหนซักทีกะเขาบ้างเหอะ คงจะเป็นอารมณ์ที่น่าสนุกดีนะ ได้ไปเปิดหูเปิดตา มองดูชาวบ้านเขาบ้าง ดีกว่าอุดอู้อยู่ที่เดิม เครียดหัวสมองระเบิดกันพอดี วันนี้ฉันมีวิธีเซฟมันนี่มาฝากเพื่อนๆกันค่ะ การที่เราตัดสินใจไปเที่ยวไหนซักที ก็ไม่ว่าจะไกลหรือใกล้ก็ต้องใช้เงินแหละ แล้วคุณจะใช้เงินยังไงให้ไปเที่ยวได้พอสมกับที่เรามีล่ะ มานี่ ฉันมีวิธี อันดับแรกคุณนำเงินในกระเป๋าที่คุณมีมานั่งนับก่อนว่ามีกี่บาท แล้วคำนวณดูว่าคุณจะไปไหนได้บ้าง สถานที่อันน่าประทับใจ น่าเที่ยว น่าชม มองแล้วสวยดี จากนั้นเมื่อคุณได้ที่หมายแล้วก็มากำหนดเวลาว่าคุณจะไปวันไหน ไปกี่วัน สะดวกเดินทางแบบไหนที่พอกับเงินที่คุณมีอยู่ จากนั้นก็Plan money ที่มีอยู่นะคะ ว่าจะพอกี่วัน แล้วก็อย่าลืมกำหนดวันหยุดที่ทำงานด้วยล่ะ จะได้ไม่มีปัญหา อิอิ เดินทางเลย---- เมื่อคุณตัดสินใจแล้ว เปื่อเลือกเผื่อเหลือกันบ้างนะคะ ถ้าให้ฉันแนะนำ ฉันคิดว่าการเดินทางโดยรถโดยสารนี่ประหยัดสุดๆแล้ว ค่ะ ไม่ต้องจ่ายมากเลย แค่เพียงค่ารถไป-กลับ ให้รอดก็พอ เมื่อคุณถึงที่หมาย----คุณก็หาโรงแรมซะนะคะ อย่าลืมว่าการหาโรงแรมก็เหมือนการหาซื้อของ หากไม่เดินให้ทั่วซะก่อน คุณก็อาจจะได้ราคาแพงกว่าก็ได้ ราคาแพงกว่าแต่คุณภาพเท่ากัน แหม! เป็นอะไรที่รู้สึกเจ็บใจไม่น้อยค่ะ สำหรับฉัน แต่ถ้าคุณเงินถึงและไม่เสียดาย ไม่คิดมาก ก็เอาเลย ที่นั่นแหละ แต่ของฉันต้องการ surway ค่ะ คงต้องเดินกันนานหน่อย ----เมื่อคุณตัดสินใจพัก คุณก็หาของรับประทาน คราวนี้ก็เลือกอีก เดินดูทั่วไปหมด ไอของกินนี้ฉันไม่ค่อยเท่าไร เรื่องราคา ฉันเน้นความสะอาดและปริมาณ อิอิฉันจึงเห็นร้านไหนหน้าเข้าไปรับประทานก็เอาร้านนั้นแหละ ร้านที่ดูดี เป็นมิตรภาพหน่อย อย่าไปเข้าร้านที่ดูแล้วเป็นแม่ค้าปากจัดนะ บางทีคุณอาาจะเสีย Sense ในการรับประทานมื้อนั้นก็เป็นได้ ------เมื่อคุณทานอาหารเสร็จสิ้นแล้ว ก็ลองเดินชมแถวย่านนั้น คุณอาจจะผูกมิตรไปด้วยกับคนท้องถิ่น ถ้าคุณกล้า แต่อย่าไปไว้ใจใครง่ายๆนะ อย่าไปเชื่อเขาซะหมดหล่ะ แค่ฟังเฉยๆ แล้วใช้ sense คิดดูว่าอันไหนที่จะเชื่อได้บ้าง หรือไม่คุณก็ลองสำรวจดูข้อมูลค่ะ ว่าแถบนั้นมีของดีอะไร ที่คุณจะสามารถเข้าไปดูได้บ้างแล้ว ก็ plan ว่าจะทำอะไร เอาน่าอย่างน้อยๆ คุณก็ได้บรรยากาศนะ สนุกดีออก น่าตื่นเต้นและน่าค้นหา แต่เพียงแค่มีเงินเท่านั้นเอง อิอิอิ -------ลองดูนะคะ เมื่อขากลับก็หาซื้อขนมกินบ้างก็ได้ บางทีอาจจะมีของฝากติดไม้ติดมือกลับไปฝากบุพการีหรือเพื่อนสนิทมิตรสหายคนใกล้ตัว แค่นี้คุณก็ happy ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีเงินมาก แต่คุณก็ไปเที่ยวได้ คุณจะได้ผ่อนคลาย ไม่ต้องอยู่ติดกับที่จนตัวเองรู้สึกเซง คุณลองดูนะคะ ในแบบของคุณอาจจะเที่ยวแบบ HI-So มีรถขับเอง สะดวก แต่ส่วนของฉันว่าแบบนี้ดีกว่ากันเยอะ เพราะไม่ต้องมีภาระ เอาไปแต่ตัวกับหัวใจ และเงินไม่มาก อยากทำอะไรก็ได้ แต่ก็เที่ยวทะลุจุใจ สนุกดี ลองดูนะคะ

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

รักแท้จากอินเตอร์เน็ตมีจริงหรือไม่

หลายคนคงเคยเข้าไปในโลกของ Internet online Chatting แน่นอนว่าเป็นความสนุกและสนุกอย่างหนึ่งแน่นอน ถ้าหากจะกล่าวถึงเรื่องคู่ครองและรักข้ามทวีป โลกInternet World Wide เป็นโลกที่ไร้พรมแดน โลกที่ไม่สามารถกั้นขวางรักข้ามทวีปได้เลย ซึ่งน่าอัศจรรย์กับเทโนโลยีและสมองของมนุษย์ที่สามารถสรรค์สร้างสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นได้ นั่นเอง โดยทั่งไป Programme Chat ก่อนหน้านี้ที่ดังๆ ตั้งแต่รุ่นแรกที่ฉันแอบออกจากบ้านไปเล่นที่ร้านก็ Pirch, ICQ, Msn Messenger ฯลฯ หรือผ่านห้องสนทนาในเวบไซต์ต่างๆ จุดประสงค์ส่วนใหญ่ของผู้ใช้ มีทั้งการหาเพื่อนคุยแก้เหงา หรือแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นในเรื่องที่สนใจเหมือนกัน การแชท ช่วงนั้นดังสุดๆ ส่วนใหญ่จะคนในประเทศเดียวกันที่ติดต่อสื่อสารกันได้ และนัดพบกัน รุ่นแรกไม่มีกล้อง webcam ตามร้านอินเตอร์เน็ต การเล่นแชทดังรองลงมาจากเกมส์เลย การแชทคุยกันสนุก อารมณ์อ่อนไปกับคำพูดที่สวยงาม หวานหู น่าหลงไหล อยากได้พบคนผู้นั้นกับตา ด้วยตัวเองเหลือเกินว่าจะน่ารักอย่างที่พูดไหม ยิ่งวัยรุ่น อยากลอง ใจร้อนมุทะลุ อยากเจอ เชื่อง่ายและมีอารมณ์เรื่องของการอยากมีคู่หรือมีแฟนไว้อวดเพื่อนอยู่แล้วตามวัยที่เพิ่งแรกรุ่น หญิงสาวหลายคนตกเป็นเหยื่อของชายแปลกหน้าบนโลกออนไลด์อย่างง่ายดาย ทั้งถ่ายคลิปและแบล็กเมล์ หรือให้ทำอะไรต่อมิอะไรง่ายดาย โดยส่วนใหญ่ลูกคนมีเงินทั้นนั้น เพราะลูกคนจนน้อยนักที่จะมีเงินไปนั่งเล่นแชทแบบนั้นเพราะด้วยต้องใชจ่ายอย่างอื่นมากมาย มาอีกยุคหนึ่งเป็นเรื่องของการก้าวข้ามประเทศเขตแดนและแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมกัน เกิดจากwebsite มากมายที่เรียกว่า Profile เช่น HI5, Tagged,Orkut,facebook ฯ เวบไซด์เหล่านี้ ทำให้เราได้พบเพื่อนจากต่างแดนมากมาย การก้าวข้ามไปสู่อีกทวีปโดยแชท camfrog ,MSN messenger ,yahoo ,skype ,facebook เอง ซึ่งทำให้คนหลายคนได้แฟนต่างชาติกันไปหลายรายค่ะ แต่อย่าลืมว่า การพูดคุยหาเพื่อนใหม่ เป็นสิ่งที่ดีก็มี ถ้าเป็นการคุยเพื่อแก้เหงา หรือคุยในเรื่องที่ชื่นชอบด้วยกัน แต่ถึงแม้จะคุยกันถูกคอแค่ไหน ก็ยังไม่ควรไว้ใจ เพราะเรายังไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างไร เขาอาจจะหลอกเราให้เราหลงเชื่อเพื่อหวังผลประโยชน์จากเราเองก็ได้ และเขาสามารถสร้างตัวตนให้เราเชื่อถืิอได้ เพียงแค่มีมือ และสมองที่ประดิษฐ์คำพูดหวานๆ ที่ถูกใจเรา เท่านั้นเอง หากชอบChat ก็อย่าลืมอันตรายที่อาจมาถึงตัวได้ทุกขณะ เพราะคนเราไม่อาจจะไว้ใจเพียงแค่การมองเห็นใบหน้าผ่านเว็บแคมเท่านั้น เขาอาจจะมีอะไรที่เราคิดไม่ถึงก็เป็นได้ ไม่ว่าจะคนไทยด้วยกันหรือชาวต่างชาติก็สามารถทำให้เราบาดเจ็บทางกายและใจได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะวัยรุ่นหรือคนแก่ก็ตาม จะเล่าความจริงให้ท่านทราบ จากประสบการณ์ ฉันเองก็เป็นเจ้าแม่แชท โดยประสบการณ์ของฉันเองก็ไม่ได้นัดพบปะใครหลังจากการคุยผ่านMSN ส่วนใหญ่ฉันจะคุยกับชาวต่างชาติเพื่อฝึกภาษา และนิสัยก็จะไม่ค่อยadd ใครก่อน และโซนที่แอดอิฉันมา นะ ก็แนว Middle East Arab หรืออินเดีย ปากีสถาน หรือโซนตุรกี แขกขาว ถ้าแถบแนวยุโรป ก็มีบ้าง ส่วนเอเชียไม่ค่อยมีค่ะ แม้จะแชทมานาน3-4 ปี เพราะความไม่ไว้ใจ และคุยมาประมาณ 1000 คน บนโลกออนไลด์ รวมถึงปล๊อกไปมากมายนัก จนไม่สามารถจะจำได้เพราะมีทั้งคนที่สกปรก ชอบโชว์ชองลับ หรือโดยส่วนใหญ่ 80 % ที่ฉันเจอก็พวกชอบขอให้เราโชว์ขั้นตอนแรกอาจจะเป็นการเข้ามาตีสนิทให้เราชอบและหลงใหลคารมและหน้าตาของเขาเอง คุยไปนานๆก็ชวน Make Love in cam ซะงั้น โอ้พระเจ้า ไอหน้าหล่อที่เราชอบ นั่งเสียเวลามองหน้ามันมาตั้งนานที่แท้มันหวังจะให้เราถอดเสื้อผ้าโชว์ซะงั้นเอง ก็แปลว่ามันไม่ได้ชอบเราเลย ที่มันชมว่าเราสวยนักสวยหนา สวยบาดตาบาดใจ คำก็ที่รัก 2 คำก็เบบี๋ 3 คำก็นางฟ้า 4 คำบางทีเมียจ๋า สามีมีความต้องการ ช่วยหน่อยได้ไหม บำบัดความต้องการให้หน่อยดังนั้นก็ว่าไป เลยรู้อ๋อ!!!!! ที่ว่าฉันสวยเพราะอยากให้ฉันบำบัดความใคร่นี้เอง เลยจบกันไป ด่าFUxx อิอิิอิ เป็นอันบล๊อกและจบบริบูรณ์ บางทีก็บ้าคลั่งอยู่กับชายหนุ่มที่หน้าตาดีมาก โห สเป๊กเราเอง ช่างหล่อบาดตาบาดใจนั่งมองเท่าไรก็ไม่เบื่อ หารู้ไม่ว่ามันแชทกับเราได้ ก็แชทกับผู้หญิงตนอื่นได้เช่นกัน คุยกับคนส่วนใหญ่ก็แค่คุย ไม่ค่อยเปิดแคมค่ะ เพราะมักจะมีเรื่องตามมาทุกที บางทีเปิดครั้งเดียว ส่วนใหญ่จะมีคนที่เขาอยากคุยกับฉันจริงๆ และคุยนานทีเดียว ดังนั้นก็สารภาพว่าหลงใหลคุยกับหนุ่มชาวต่างชาติอยู่นานมาก มี คนเรา แหม ก็ชอบเป็น บ้านเราไม่มีนะ หล่อ ขาว สูง คม สันจมูกเทห์ซะขนาดนั้น มองแล้วก็คงอยากจะคุย อิอิ คุยกันมา3 ปีก็มีติดด่อมา ก็มี ฉันเป็นพวกจิดใจแข็งแรง รักคนยาก ลืมง่าย ถ้าถามว่าชอบมากไหมก็ชอบมาก แต่ทำไงได้ก็เราไม่รู้จักกัน แค่เพียงเห็นหน้าไม่สามารถนำใจของฉันไปได้ทั้งดวง แม้จะหล่อแค่ไหนก็ตาม มีอีกมายมายหลาย Case ที่เป็นความรู้สึกส่วนตัวที่อยากจะ Post ตรงๆ แต่เราก็ลงเวบ ไม่อยากให้มันเป็นคำพูที่ดูไม่ดีค่ะ แต่คนเหล่านั้นที่สกปรกก็มากมายที่อยากให้ทราบไว้ แต่อยากเตือนว่าฉันคุยมา3-4 ปี ยังไม่เห็นจะเจอคนดีเลย หากถามว่ามีคนดีไหม อาจจะมีแต่จะรุ้ได้อย่างไร อันนี้ก็ไม่ทราบ อยู่ที่วิจารณญาณของคุณเอง ฉันก็แค่อยากเตือนว่าหายากที่จะพบคนดี บางคน 1 ใน 100 ค่ะ แต่คุณอาจจะเป็นคนโชคดีก็ได้ ก็ขอให้ท่านพบกับรักที่ หากท่านแอบปลื้มหนุ่มชาวต่างชาติแบบฉันสักคน หากใครได้ดีมา share กันหน่อยนะคะ บางที Topic อาจจะเปลี่ยนแปลงไปก็ได้เพราะประวัติศาสตร์ของคุณ เป็นอันว่ารักแท้จากอินเตอร์เน็ตมีจริงหรือไม่ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคน ก่อนอื่นคุณต้องทราบก่อนว่ารักแท้คืออะไร แล้วจะทราบว่าหาได้หรือไม่จากอินเตอร์เน็ต อย่าไปเชื่อคนง่ายและอย่าไหลตามอารมณ์ตัวเองนะคะ อยู่เป็นเพื่อนฉันก็ได้เพราะฉันก็ยังคงโสดจนถึงทุกวันนี้นะค่ะ อิอิ ไม่มีโอกาสเจอคนดีง่ายๆ เลย อาจจะยังไม่่ถึงเวลา แต่ฉันก็ไม่รีบค่้ะ หากมีคนที่แย่ๆ ทำให้ชีวิตของฉันต้องลำบาก สู้อยู่ตัวคนเดียวมีความโลดโผนต่อไปดีกว่า สนุกดี อย่าลืมนะคะ ท่านจะต้องอยู่กับคนๆ นั้นทั้งชีวิต ท่านจะต้องเลือกดีๆ ค่ะ จะเป็นคนเชื้อชาติเดียวกันหรือต่างชาติต่างศาสนาและวัฒนธรรม เราก็ต้องดูที่สำคัญคือเขารักเราหรือไม่นั่นเอง ถ้าเขาไม่รักเรา เราก็จะไม่มีความสุข ของแบบนี้อยู่ที่หัวใจ บังคับไม่ได้ต้องคิดเอาเองและคิดดีๆ ไม่ใช่ชอบพอกันแต่แค่เปลือกนอก หน้าตาภายนอกแต่จิตใจชั่วร้ายดั่งปีศาจ ฉันเป็นกำลังใจไห้ทุกท่านค่ะ สู้ๆ นะคะ

วันนี้และความฝันที่รอคอย

ได้กล่าวกันว่า การเกิดมาเป็นมนุษย์นั้นสุดประเสร็ฐ เป็นบุญแล้วที่ได้เกิดมาดังนี้โดยครบ 32 ประการ ไม่พิกลพิการใดๆ แต่คนเรานั้น เขากล่าวกันว่าจะอยู่ดี มีสุข อย่างไรก็ขึ้นอยู่กับบุญทำกรรมแต่งกันมาแต่ชาติปางก่อน คนเรามักเชื่อเรื่องของชาติภพ สิ่งที่ต้องเผชิญอยู่นั่นก็คือกรรมหรือบุญที่สร้างมานั่นเอง ความหมายของฉันในบันทึกหน้านี้ มิได้จะกล่าวอะไรมาก หากเป็นการพึงระลึกถึงสิ่งที่ตัเองเผชิญอยู่ ตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็ก จนถึงปัจจุบัน ที่ตอนนี้ได้ทำงานแล้ว ที่ทำงานนี้ทำได้เกือบปีแล้ว ตั้งแต่เรียนหนังสือจบมา ชีวิตที่ผ่านความลำบากมาบ้าง ได้รู้ถึงการที่จะต้องช่วยเหลือตัวเองว่าจะต้องทำอย่างไรกับชีวิตของตัวเองนี้ดี ยามวัยเด็กฉันไม่ได้เกิดมามีทุกอย่างเหมือนใครๆเขา อยากได้อะไรบางทีก็ไม่ได้จนต้องถึงกับอยากินขนมจนไปโขมยเงินแม่มาซ่อนไว้ใต้ตู้กัับข้าวในลังหนึ่งในเป็นจำนวนเงินเหรียญรวมธนบัตรก็ 200 บาท สมัยนั้นก็มีค่าพอดูที่จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้2 วัน แต่ฉันเอาไปแอบซุกไว้เพื่อจะได้นำไปซื้อขนมมารับประทาน ซึ่งแม่มักจะให้เงินแต่กับน้องสาว เพราะเห็นว่าเราโตกว่าจึงไม่ได้กินขนมตอนเด็ก นึกดูก็มีความน้อยใจที่เห็นเขาได้แต่เราไม่ได้ตามประสาของเด็ก น้องก็มารับประทานอวดต่อหน้าและไม่แบ่งให้รับประทาน ในวัยนั้นฉันเป็นเด็กซื่อๆ มีความฝัน แม่มักจะใช้ให้ฉันทำงานบ้านช่วยและปล่อยน้องไปเล่นกับเพื่อน ฉันมีภาระในการทำงานบ้านตั้งแต่เด็ก6-7 ขวบ แม่ของฉันยามโมโหจะตีแรงมากและด่าแรงจนคนข้างบ้านได้ยินทั้งแถบ เพราะอาศัยอยู่ห้องแถว ย่านนั้นเป็นโรงงาน ชีวิตของฉันไม่ได้สวยหรู ฉันชอบที่จะออกไปดูโลกภายนอกแต่ก็ไม่ได้ไปนอกจากอุดอู้แต่ที่บ้านเพราะต้องทำตามคำสั่งของแม่ มีแต่น้องที่ไปเล่นเที่ยวได้ตามสะบายใจเพราะไม่มีภาระใดๆ ที่จะต้องกระทำ ยิ่งตอนที่นั่งพับถุงพลาสติกแบะแพ็กกิ้งยิ่งทรมาน ชีวิตไปไหนไม่ได้ ต้องทำงานช่วยแม่ ทั้งด่าและบังคับ ฉันไม่ค่อยชอบไกล้แม่เพราะแม่ชอบใช้งาน การเรียนของฉันอยู่ขั้นปานกลาง สมองของฉันไม่ใช้คนหัวเร็วหรือฉลาด ตรงกันข้ามหัวช้ามาก แต่มีความเพียรและขยัน มีฝันและมานะ ความทะเยอทะยานที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้น หลุดพ้นจากช่วงชีวิตนี้ไปได้นั่นเอง สมัยมัธยมต้นจนถึงปลายเป็นช่วงชีวิตที่พยายามศึกษาหาแนวทางชีวิตของตัวเองว่าจะไปในทิศทางไหนค่ะ ฉันมีความหวังไว้เบื้องต้นว่าจะทำงานดี มีเงินทอง ตอนนั้นอยากเป็นครูเพราะเห็นใครๆก็ยกย่องครู ยกมือไหว้กัน ฉันเลยอยากเป็นบ้าง แต่กาลเวลาผ่านไปทุกอย่างที่ฝันก็เปลี่ยน วันเวลาและประสบการณ์ของชีวิต เด็กที่มีความใฝ่ฝันอย่างตัวฉันเองก็อยากที่จะมีโลกที่ออกจากสถานะของการกดดัน บังคับที่อยู่ ฉันกลายเป็นคนที่อยู่ปับครอบครัวไม่ได้ เป็นเหมือนนกที่บินออกจากรัง รังที่ไม่มีความสุขใจ ความคิดเห็นของฉันและพ่อแม่ขัดแย้งกันมาก ฉันไปอีกทาง ส่วนของพ่อแม่อีกทาง ไม่สามารถประสานกัน สิ่งที่ฉ้นได้รับรู้จากที่เรียนมากับสิ่งที่พ่อแม่เป็นมันคนละแนว ไปด้วยกันไม่ได้ ทำอย่างไรก็ไม่เข้ากันสักที หลายครั้งที่ออกไปจากบ้าน ไปหาที่พักพิงให้กับชีวิตตัวเอง กู้เพื่อการศึกษาโดยเอาคนอื่นค้ำประกัน รำ่เรียนจนจบมหาวิทยาลัยด้วยความพยายามและความสามารถแม้ว่าอุปสรรคในชีวิตมีมากมายเหลือเกิน เจอเรื่องที่กระทบจนจะไม่ประสบความสำเร็จก็บ่อยครั้ง จนต้องบอกตัวเองให้อดทน จนถึงวันนี้ มาวันนี้การศึกษาเสริมสร้างให้มีวุฒิการศึกษาแม้ว่าไม่ได้มาจากใคร แต่ความรักดีของเราก็สร้างตัวเราเอง ทำให้ฉันคิดถึงแนวทางชีวิตอันแท้จริงที่ไม่แน่นอน อย่าคาดหวังอะไรมาก ชีวิตไม่มีความเป็นจริง กาลเวลาสามารถเปลี่ยนทั้งคนและจิตใจได้เสมอ คนมีจิตใจที่ไม่คงที่ และแน่นอน อาจจะผันไปตามสิ่งแวดล้อมได้ง่ายมาก ฉันไม่ปฏิเสธเพราะฉันก็เป็นเช่นกัน ฉันได้งานทำแต่ก็ไม่ได้แน่นอนอะไรเพราะชีวิตของฉันยังอยากโลดโผน ฉันไม่รู้ว่าชีวิตฉันจะไปทางไหน จุดจบคืออะไรเพราะไม่สามารถทราบอนาคตได้ วันนี้ต้องยอมรับว่า ณ จุดนี้ทำวินาทีนี้ไป ไม่สร้างกรรมต่อ ไม่ก่อโทษให้ใครเดือดร้อนเป็นพอ

วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

การเดินทางของชีวิต

ในแต่ละวัน ชีวิตต้องเดินทางก้าวไปเรื่อยๆ หน้าที่หรืองานที่รับผิดชอบอยู่ ยังคงต้องทำอยู่ วันนี้ พรุ่งนี้ก็คงเหมือนเดิม และต้องเหมือนเดิมต่อไป.. ในเส้นทางฝันของชีวิตในแต่ละคนนั้น ฉันเชื่อว่าทุกคนคงอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของปัจจัย 4 ทั้งหลาย จนถึงทฤษฏีของมาสโลว์ ที่ว่าความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ เมื่อมองดูแล้วกลับพบว่านั่นคือ มนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์สังคม ดังนั้นจึงNeed มากที่จะทำให้ประสบความสำเร็จขั้นสูงสุด ซึ่งไม่่สามารถอยู่คนเดียวเพียงลำพังได้ มนุษย์โลกเรานั่นเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่มีความต้องการที่สิ้นสุดค่ะ ดังนั้นในหัวข้อที่ฉันเกริ่นนำมานี้จะขอกล่าวถึงการเดินทางในชีวิตของฉันและ การเดินทางต่อไปอีก ในวันที่ฉันยังมีลมหายใจอยู่บนโลกใบนี้ค่ะ