Anyone have a life to going on but that who like to wirte something on some space for remember evet happen in life,I am also, that i can sharing on my jounal.
วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554
กาลเวลาผ่านไป....ความเจ็บช้ำยังคงเท่าเดิม
วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554
เรื่องเล่าประสบการณ์ลี้ลับ เรื่องผี ผี และไสยศาสตร์มนต์ดำ ภาค 3
วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554
ทำงานใหม่ ใจต้องสู้
วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2554
เรื่องเล่าประสบการณ์ลี้ลับ เรื่องผี ผี และไสยศาสตร์มนต์ดำ ภาค2
วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554
เรื่องเล่าประสบการณ์ลี้ลับ เรื่องผี ผี และไสยศาสตร์มนต์ดำ
คุณเคยมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องสิ่งที่มองไม่เห็นบ้างหรือไม่คะ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าค้นหาและน่าสนใจสำหรับบางคนใช่หรือไม่ หากจะเล่าไป เรื่องเหล่านี้คุณจะเชื่อไหม ว่าเป็นเรื่องจริง
ความจริงเรื่องไสยศาสตร์หรือสิ่งลี้ลับเป็นความเชื่อที่มีมาช้านานคู่กับคนไทย ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน สิ่งไหนลี้ลับ มักจะมีคนสนใจ หารบอกต่อเล่าขานที่ทั้งจริงและไม่จริงก็มีมาก หากจะกล่าวไปก็เหมือนต้องใช้วิจารณญาณเพื่อพิจารณาถึงว่าน่าจะเป็นก่อนแล้วค่อยเชื่อตามคำสอนของศาสนาพุทธ สิ่งที่ฉันพบเจอนี้ บอกก่อนว่าเป็นสิ่งที่พิสูจน์และหาคำตอบไม่ได้เลย ประสบการณ์ตั้งแต่เด็กจนโตเลยนะคะ เมื่อสมัยเด็กๆ ฉันยังจำความได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องประหลาดที่เกิดกับตัวเอง ถึงตอนอยู่โรงเรียนประถมศึกษา ที่โรงเรียนสมัย ป 2. วันหนึ่งฉันไม่สบายและที่โรงเรียนไม่มีห้องพยาบาล ดังนั้นฉันจึงเดินทางไปพักที่ห้องสมุดของโรงเรียน มีเตียงนอนเพื่อพักสำหรับคนไม่สบาย คุณครูให้ฉันไปพัก เมื่อเข้าไปพักที่ห้องสมุด สภาพของห้อง ไม่ต่างจากเรือนไม้เล็ก ๆ เพียงชั้นเดียว ภายในห้องมีหนังสือเก่าๆ มากมายนัก หนังสือที่มีค่า มีประโยชน์ควรแก่การน่าศึกษา ฉันไม่ได้สนใจหนังสือ เดินไปที่เตียงข้าหน้าต่างเพื่อนอนพักผ่อน เมื่อหย่อนกายลงเตียงได้สัก 2 นาที ปรากฏว่าได้ยินเสียงของคนเดินตึก ๆ ๆ ๆ เพราะพื้นเป็นไม้ เมื่อโผล่หน้าออกไปดู เดินดูจนทั่วแล้วก็ยังไม่เจอใคร ไปดูในซอกของหนังสือ มุมนั่นต้นเหตุของเสียงก็ไม่มีใคร จึงได้เดินกลับไปนอนที่เตียง สักพักเสียงก็ดังขึ้นมาอีก เดินไปเดินมา รอกวนจนทำให้ฉันนอนไม่ได้ ฉันเริ่มโมโห รำคาญและกลัวลึกๆ อยากรู้อยากเป็นว่าใครมาแกล้งให้ฉันนอนไม่ได้ จึงเดินกลับไปที่ซอกของเสียงเดินไปมาอีกครั้ง ก็ไม่พบใครเลย มองไปที่ห้องเรียนก็เรียนหนังสือกันหมด ฉันจึงได้ข่มใจลงไปนอนเป็นครั้งที่ 3 และเริ่มกลัวที่มาของเสียงว่าคืออะไร รู้สึกขนลุกอยู่ลึกๆ เพราะคุณครูเคยเล่าให้ฟังว่า คุณตา เจ้าของโรงเรียนนี้เป็นคนที่รักในการอ่านหนังสือมาก ชอบอ่านหนังสือ สมัยก่อนท่านจะมานั่งที่ห้องเรือนไม้นี้เป็นประจำ ท่านสะสมหนังสือเก่าๆ ไว้มากมายนัก จนฉันดูแล้ว ความเป็นเด็กอายุแค่8 ขวบ ไม่ได้ต้องการแตะต้องหนังสือของผู้ใหญ่สักนิดเลย แต่เมื่อเดินมานอนที่ในห้องนี้ คงไม่ใช่ที่นอน เป็นที่อ่านหนังสือ เป็นที่ๆ มีเจ้าของโดยเราไม่บอกเล่าและขออนุญาตก่อนเลย คิดจะมานอนก็มาเฉยๆ ซะงั้น เรื่องก็คือคุณครูสั่งให้มานอนเพราะไม่สบาย ดังนั้นจึงเข้ามานอนในห้องสมุดนี้ที่เขาจัดเป็นห้องพยาบาลด้วย หลังจากครั้งที่ 3 ฉันก็ทนไม่ไหว เดินิกไปจากห้องสมุดและไม่เหลียวหลังกลับมาอีกเลย เพราะความกลัว ฉันไม่ได้อุปทาน แต่เสียงเดินตึกตัก เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจของเจ้าของที่ อาจจะเห็นเป็นนักเรียน ในขณะที่เพื่อนเรียนกันอยู่ ทำไมเรามานอนอยู่ได้ที่นี่ อาจจะขี้เกียจหรืออู้หรือไม่นะ จึงทำเสียงดังรบกวน ไม่อนุญาตให้เราได้นอนพัก หรืออาจจะเป็นที่เราไม่ได้ขออนุญาตพักที่นี่ก่อนหน้านี้ ด้วยความที่เป็นเด็กไร้เดียงสา ดังนั้น ว่าแล้วก็เดินออกไปที่ห้องเรียน ไปนอนฟุบกับโต๊ะ และไม่มาห้องนี้อีกเลย คุณครูถามว่าทำไมไม่ไปนอนพัก เมื่อเธอไม่สบาย เราตอบว่าอยากพักห้องนี้ค่ะ หายแล้ว ดังนั้นจึงได้นอนที่ห้องเรียนไป
ฉันไม่รู้หรอกนะว่า นั่นคืออะไร ไม่สามารถหาคำตอบได้ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น ไม่สามารถสืบทราบได้แน่ชัด ต่อมาไม่นาน ห้องสมุดก็เกิดไฟไหม้ หนังสือไหม้หมดเลย เหลือไม่กี่เล่ม ที่พอจะเก็บได้ ฉันไม่รู้ว่าทำไมไปไหม้ เพราะอะไร เกิดได้อย่างไร แต่ที่รู้ก็คือไม่มีห้องสมุดให้นักเรียนไปอ่านได้อีกเลย