วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554

ทำงานใหม่ ใจต้องสู้

หลายๆ คนที่เรียนจบแล้ว คงจะหางานกันสินะ บางคนก็หางานทำได้แล้ว บางคนก็ยังอยู่บ้านรองาน บางคนก็อาจจะมีธุรกิจส่วนตัวที่ทำเอง แต่เราก็จะภูมิใจถ้างานนั้นเป็นงานที่ถูกใจแล้วเราก็ชอบ
แต่บางคนสิคะ ที่เขาไม่มีทางเลือก งานอะไรก็ทำไปก่อน คิดเพียงเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ความฝันนั้นก็ไม่อาจจะเป็นจริงได้เสมอไป หรือบางคนไม่คิด ไม่ฝัน มันก็เป็นอะไรที่ประสบความสำเร็จเหนือคาดหมาย
อันนี้ก็แล้วแต่วาสนาของแต่ละคนที่โอกาส ไม่เท่ากัน

อย่างที่บอกว่า ในช่วงแรกของการทำงาน มันก็อาจจะเจอสิ่งใหม่ สังคมใหม่ สิ่งแปลกใหม่ที่เป็นโจทย์ให้เราต้องปรับตัว การเรียนรู้แน่นอนว่าหากใครหัวดีก็เรียนได้เร็ว โชคดีไป ใครไม่ค่อยรู้เรื่องก็ค่อยๆเรียนไป อาจจะช้าบ้าง
ลำบากบ้างก็ต้องอดทน อาจจะต้องเจอรุ่นพี่รับน้อง อาจจะโหดบ้าง หรือดีก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมตามธรรมเนียม คนมาก่อนมาหลัง
รายละเอียดงานที่อาจจะยาก ต้องใช้เวลาเรียนรู้ นั่นก็คือว่าโจทย์แรกนะคะ แต่ที่ต้องทนก็งานที่ต้องพบปะลูกค้า นั่นหมายถึงบุคคลคนสำคัญงานบริการในยุคปัจจุบัน งานบริการคู่กับลูกค้า ที่ธุรกิจไหนก็ต้องทำ
ยกตัวอย่างของ case งานขายของ sale personal การเริ่มต้นทำงานนี้เป็นงานหนัก เปรียบไปก็เหมือนกับการทำนา เป็นการหว่านต้นกล้า โดยที่บางคนอาจจะไม่มีประสบการณ์ ไม่มีฐานลูกค้า และจำเป็นที่ต้องหา ไม่รู้อะไรเลย ก็ย่อมต้องหนักหนาเป็นธรรมดา
ลำบากบ้าง รอคอยผลที่เราทำไปบ้าง แต่เมื่อวันหนึ่งที่ผลของการทำนาสำเร็จเป็นข้าวกล้าที่เราปักไปนั้น แล้วการใส่ปุ๋ยก็เหมือนกับการเอาใจใส่ลูกค้า การดูแลลูกค้า มักจะเห็นผลไวขึ้น
เมื่อข้าวกล้าเริ่มโตและสามารถเก็บเกี่ยวได้ ดังนั้นข้าวสุกออกรวงเต็มนาฉันใดก็ฉันนั้น นั่นเป็นผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้แล้วก็คือ การที่ลูกค้าซื้อสินค้าของเรานั่นเอง ยิ่งสินค้าแพงก็ต้องใส่ใจให้มากขึ้นนั่นเองค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น